วันอังคารที่ 19 มกราคม พ.ศ. 2553









เร้กเก้
จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
ไปที่: ป้ายบอกทาง, ค้นหา

เร้กเก้
แนวเพลงแม่แบบ:
อาร์แอนด์บี - แจ๊ซ - บลูส์ - เมนโต - คาลิปโซ - สกา - ร็อกสเตดี้
แหล่งกำเนิดแนวเพลง:
ปลายยุค 1960s คิงสตัน, จาไมก้า
เครื่องดนตรี:
กีตาร์เบส - กลอง - กีตาร์ - ออร์แกน - เครื่องดนตรีสากลกลุ่มเครื่องสาย - เมโลดิก้า
กระแสความนิยม:
ในยุค 1970s จนถึงปัจจุบัน
แนวเพลงที่ได้รับอิทธิพล:
แด๊นซ์ฮอลล์ - ดั๊บ
แนวเพลงย่อย
Roots reggae - Lovers rock
แนวเพลงผสม
เรกเกตัน - Reggae fusion - Seggae - 2 Tone

Bob Marley ศิลปินเร้กเก้ที่มีชื่อเสียง
เร้กเก้ (อังกฤษ: reggae) เป็นแนวดนตรีแอฟริกัน-แคริบเบียน ซึ่งพัฒนาขึ้นบนหมู่เกาะจาไมก้า และมีความชิดใกล้เชื่อมต่อกับลัทธิรัสตาฟาเรียน (Rastafarianism) รากดั้งเดิมของเร้กเก้สามารถค้นหาได้จากดนตรีเทรดิชั่นหรือประเพณีนิยมของแอฟริกัน-แคริบเบียนที่มีพอๆ กับดนตรีริธึ่มแอนด์บลูส์ของอเมริกัน
เร็กเก้ เป็นดนตรีที่มีลักษณะพิเศษเฉพาะที่เดียวในโลกของประเทศจาไมก้า ซึ่งอิทธิพลทางดนตรีมาจากนิวออร์ลีน ริธึ่มแอนด์บลูส์ มาจากการฟังวิทยุทรานซิสเตอร์ที่รับคลื่นสั้นจากสหรัฐอเมริกาในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2
รากเหง้าของดนตรีคนแอฟริกัน-แคริบเบียน คือเพลงโฟล์คของจาไมก้าที่เรียกว่า เมนโต (Mento) มีท่วงทำนองเพลงไปในทางแนวดนตรีคาลิปโซ เนื้อหาของบทเพลงจะพูดถึงการเรียกร้องสิทธิของตัวเองและปัญหาความยากจนต่อประเทศเจ้าอาณานิคมในหมู่เกาะอินดีสตะวันตกในทะเลแคริบเบียน
สำหรับจาไมก้าตกอยู่ภายใต้การปกครองของอังกฤษ พลเมืองตกเป็นทาสของคนผิวขาว ก็มีการพัฒนาดนตรีเมนโตนำมาผสมกับอาร์แอนด์บีทางตะวันตกเฉียงใต้ของสหรัฐอเมริกา พัฒนาเปลี่ยนแปลงจังหวะเพิ่มขึ้นจนกลายเป็นดนตรีสกา (Ska) โดยเปลี่ยนแปลงจังหวะให้เพิ่มขึ้น กีตาร์เล่นจังหวะยก และมีการเล่นลัดจังหวะ ถือว่าเป็นการแปลความหมายของดนตรีอาร์แอนด์บีอีกรูปแบบหนึ่ง และเป็นที่นิยมกันอย่างมากในช่วงต้นยุคทศวรรษที่ 60 และได้มีการพัฒนาขึ้นอีกขั้น บีทของดนตรีจึงถูกดึงให้ช้าลงใช้เปียโนและเบสที่มีอิทธิพลดนตรีร็อกเข้ามาจึงเรียกว่า ร็อกสเตดี้ (Rocksteady)
จนมาถึงปี 1968 ก็ได้มีการพัฒนาจนถึงขีดสุด ดนตรีเร็กเก้จึงถือกำเนิดขึ้น ภายใต้แนวความคิดของลัทธิรัสตาฟาเรียน ทรงผมฟั่นเชือกหรือเดรด ล็อก และอุดมคติทางการเมืองและสังคม ในการพาชาวแอฟริกัน-แคริบเบียน กลับสู่แผ่นดินในทวีปแอฟริกา
สกา (Ska) และร็อกสเตดี้ (Rocksteady) คือพื้นฐานทางแนวดนตรีผู้มาก่อนเร็กเก้ในยุคทศวรรษที่ 60 ก่อนที่ บ็อบ มาร์เลย์ จะทำให้ดนตรีเร็กเก้เป็นที่นิยมไปทั่วโลก ก็เคยบันทึกเสียงในแนวดนตรีร็อกสเตดี้ในช่วงแรกในอาชีพของเขา สไตล์ดนตรีเร็กเก้ที่ทำให้เขามีชื่อเสียงมากเรียกกันว่า รูทส์ เร็กเก้ (roots reggae) หรือ รูทส์ ร็อก เร็กเก้ (roots rock reggae) และใช้กับศิลปินอีกมากมายที่ทำงานในแบบเดียวกันอย่าง Black Uhuru, Burning Spear, Culture, Israel Vibrations, The Skatalites and Toots และ The Maytals ซึ่งสามารถส่งอิทธิพลมาถึงวง UB40 ในสหราชอาณาจักร
ในจาไมก้าเอง ดนตรีสไตล์ใหม่ได้ทวีความนิยมมากว่า โดยมีการพัฒนาไปสู่สไตล์เลิฟเวอร์ส ร็อก (Lovers Rock) , แด๊นซ์ฮอลล์ (Dancehall) และแร็กกามัฟฟิน (Raggamuffin)










24 มิถุนายน
กำเนิดเรกเก้ --*

แหล่งกำเนิดของ Reggae อยู่ในชาวแอฟริกาดั้งเดิม และเพลงเกี่ยวกับทะเลคาริบเบียน จังหวะแห่งสหรัฐอเมริกา และความเศร้าหมอง และ Jamaican ska และrocksteady ใน1963 Coxsone Dodd แ่ห่งสตูดิโอ วัน ถาม Jackie Mittoo ( pianist of Skatalites ) เพื่อบันทึก เสียง และประกอบด้วยเพลงที่เป็นต้นฉบับ Mittoo ได้รับความช่วยเหลือจากมือกลอง Lloyd Knibbs และใส่ จังหวะ ska ดั้งเดิมตีเข้าไปใน reggae โดยลดลงจังหวะ ของดนตรีลง

Bob Marley ผู้ซึ่งเล่นบทบาทสำคัญของเพลง reggae ระดับโลกska, rocksteady, และ nyabinghi. โดยล่าสุด1960sreggae ได้เปิด ในสหราชอาณาจักร โดย สถานีวิทยุ John Peel's radio

คำว่า reggae อาจจะใชครั้งแรกในแบบ ของ ska เช่นวง Toots and the Maytals ในปี 1968 อัลบั้มของเขา ชื่อ Do the Reggay ทฤษฎีอื่นๆ คือเทอมที่มาจากคำว่า streggae, Jamaican ใช้ภาษาแสลงของโสเภณี หรือ สิ่งที่เกิดครั้งแรกจาก Regga ซึ่งเป็นภาษา Bantu จากทะเลสาบ Tanganyika(Lake Tanganyika) ...!!!


09 กันยายน
ประวัติเรกเก้ By Mr.GuY
สั้นๆนะครับ, Ska เกิดขึ้นประมาณปี๑๙๖๐ ก่อนหน้านั้นดนตรีในJamaica ก็เป็นBigband เล่นเพลงบรรเลงเต้นรํากันออกไปในทางJazz และเล่นเพลงpop,R'n'B,เพลงTop10ที่มาจากฝั่งAmerica .นอกจากนั้นก็ยังมีเพลงพื้นบ้านในหลายๆรูปแบบ(มาจากหลายๆเผ่า) ในปี๑๙๖๐กระแสของ Rock'n'Roll มันทําให้โลกทั้งโลกเต้นไปกับมัน เกาะJamaica,มันก็อยากจะเต้น แต่ขอโทษ...มันเต้นRock'n'Roll ไม่เป็น........ในตอนนั้นผู้คนบนเกาะชอบRock'n'Roll,ทั้งการแต่งกาย, การเต้นรําและดนตรี คือพยามจะเป็นนะ......แต่มันขัดกับธรรมชาติมากเลย......คุณลองนึกภาพตามนะ..คนเกาะ..ดำๆ.....ใส่ชุดแบบElvis..เต้นรํา..ร้องเพลงแบบElvis.....OOOHHHH MY MANNNN...มันดูไม่ได้ครับ..และในตอนนั้นเอง ก็มีชายคนหนึ่ง..ที่อยากให้จดจำ เขาคนนี้คือตำนาน...คือต้นกำเนิด และเป็นคนปูรากฐานของดนตรีจากJamaica Clement"Coxsone"Dodd คือชี่อของเขา..เราจะเรียกเขาสั้นๆ"COXSONE"....Coxsoneเขาเป็นคนที่มันมากครับ เขาเป็นDJเขาแรกของJamaica เขาเป็นคนแรกที่หาตู้ลำโพงใหญ่ๆ(มาก)มาจากAmerica บรรทุกใส่รถกระบะ ขับไปเล่นเพลงริมหาดSound System มาจากเขานี้เอง นอกจากนั้นเขาก็ทำร้านขายแผ่นเสียง ทำDance Hall โรงเต้นรำ เป็นที่นิยมอย่างมากในKingston จนกระทั้ง กระแสRock'n'Roll เข้ามา Coxsone มองดูพี่น้องคนเกาะพยามจะเต้นและร้องแบบ Elvis....Coxsoneทนดูไม่ได้ครับ.....เขาบอก."เราต้องทำRock'n'Rollในแบบชองเราเอง แบบJamaica" เขาก็ไปหาเพื่อนๆนักดนตรี(Don Drummon,Roland Alhonso,Ernest Ranglin)ให้ทำband และคนกลุ่มนี้เองคือตำนานของSKA '"The SKATALITES"(จะเล่าให้ฟังในโอกาสต่อไป) หลังจากนั้นก็ไปบรรเลงกันในโรงเต้นรำ คนชอบกันมาก.....หลังจากนั้นนาย Coxsone ก็ทำบริษัท Studio One ผลิตผลงานมากมายหลายคน เเละมี Bob Marley เป็นหนึ่งในนั้น ลองหางานของ SKATALITES ,ฟังดูนะครับ.จะเข้าใจมากขึ้น ไม่เห็นสั้นเลย สั้นๆนะครับ, Ska เกิดขึ้นประมาณปี๑๙๖๐ ก่อนหน้านั้นดนตรีในJamaica ก็เป็นBigband เล่นเพลงบรรเลงเต้นรํากันออกไปในทางJazz และเล่นเพลงpop,R'n'B,เพลงTop10ที่มาจากฝั่งAmerica .นอกจากนั้นก็ยังมีเพลงพื้นบ้านในหลายๆรูปแบบ(มาจากหลายๆเผ่า) ในปี๑๙๖๐กระแสของ Rock'n'Roll มันทําให้โลกทั้งโลกเต้นไปกับมัน เกาะJamaica,มันก็อยากจะเต้น แต่ขอโทษ...มันเต้นRock'n'Roll ไม่เป็น........ในตอนนั้นผู้คนบนเกาะชอบRock'n'Roll,ทั้งการแต่งกาย, การเต้นรําและดนตรี คือพยามจะเป็นนะ......แต่มันขัดกับธรรมชาติมากเลย......คุณลองนึกภาพตามนะ..คนเกาะ..ดำๆ.....ใส่ชุดแบบElvis..เต้นรํา..ร้องเพลงแบบElvis.....OOOHHHH MY MANNNN...มันดูไม่ได้ครับ..และในตอนนั้นเอง ก็มีชายคนหนึ่ง..ที่อยากให้จดจำ เขาคนนี้คือตำนาน...คือต้นกำเนิด และเป็นคนปูรากฐานของดนตรีจากJamaica Clement"Coxsone"Dodd คือชี่อของเขา..เราจะเรียกเขาสั้นๆ"COXSONE"....Coxsoneเขาเป็นคนที่มันมากครับ เขาเป็นDJเขาแรกของJamaica เขาเป็นคนแรกที่หาตู้ลำโพงใหญ่ๆ(มาก)มาจากAmerica บรรทุกใส่รถกระบะ ขับไปเล่นเพลงริมหาดSound System มาจากเขานี้เอง นอกจากนั้นเขาก็ทำร้านขายแผ่นเสียง ทำDance Hall โรงเต้นรำ เป็นที่นิยมอย่างมากในKingston จนกระทั้ง กระแสRock'n'Roll เข้ามา Coxsone มองดูพี่น้องคนเกาะพยามจะเต้นและร้องแบบ Elvis....Coxsoneทนดูไม่ได้ครับ.....เขาบอก."เราต้องทำRock'n'Rollในแบบชองเราเอง แบบJamaica" เขาก็ไปหาเพื่อนๆนักดนตรี(Don Drummon,Roland Alhonso,Ernest Ranglin)ให้ทำband และคนกลุ่มนี้เองคือตำนานของSKA '"The SKATALITES"(จะเล่าให้ฟังในโอกาสต่อไป) หลังจากนั้นก็ไปบรรเลงกันในโรงเต้นรำ คนชอบกันมาก.....หลังจากนั้นนาย Coxsone ก็ทำบริษัท Studio One ผลิตผลงานมากมายหลายคน เเละมี Bob Marley เป็นหนึ่งในนั้น ลองหางานของ SKATALITES ,ฟังดูนะครับ.จะเข้าใจมากขึ้น ไม่เห็นสั้นเลย